เพชร (มาจากภาษากรีกโบราณ ἀδάμας - Adamas, มีความหมายว่า "ที่ไม่สามารถทำให้แตกหักได้", "ที่เหมาะสมสมบูรณ์แบบ" หรือ "ที่ไม่สามารถทำให้เปลี่ยนแปลงได้") เป็นหนึ่งในอัญมณีที่เป็นที่รู้จักกันดีและเป็นหนึ่งในอัญมณีที่น่าเสาะแสวงหามากที่สุด เพชรเป็นที่รู้จักต่อมวลมนุษยชาติและถูกนำมาใช้เป็นของตกแต่งมาตั้งแต่สมัยโบราณ บางส่วนของการอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุดสามารถโยงไปถึงอินเดีย

การใช้งานที่เป็นที่คุ้นเคยมากที่สุดของเพชรในวันนี้คือเป็นอัญมณีที่ใช้ในการตกแต่ง-เป็นการใช้งานที่ย้อนกลับไปเหมือนวันเวลาในอดีต การกระจายของแสงขาวไปในสีสเปกตรัมเป็นลักษณะสำคัญของอัญมณีเพชร ในศตวรรษที่ยี่สิบ Gemmologists ได้พัฒนาวิธีการจัดลำดับของเพชรและอัญมณีอื่นๆ อยู่บนพื้นฐานของลักษณะเฉพาะต่างๆ ที่สำคัญที่สุดต่อมูลค่าของพวกมันอย่างอัญมณี  4ลักษณะที่รู้จักกันอย่างไม่เป็นทางการเป็น4 Cs ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้เพื่อเป็นตัวอธิบายขั้นพื้นฐานของเพชร: กะรัต, การเจียรนัย, สีและความใสบริสุทธิ

กะรัต

กะรัตหน่วยการวัดมวลน้ำหนักของเพชร หนึ่งกะรัตหมายถึง 200 มิลลิกรัม (ประมาณ 0.007 ออนซ์มาตราชั่งน้ำหนักเป็นปอนด์) จุดหน่วยเท่ากับหนึ่งต่อหนึ่งร้อยของกะรัต (0.01 กะรัตหรือ 2 มิลลิกรัม) เป็นที่นิยมใช้สำหรับเพชรน้อยกว่าหนึ่งกะรัต ถ้าลักษณะเฉพาะอื่นๆเท่ากัน ราคาต่อกะรัตเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักกะรัตเนื่องจากเพชรขนาดใหญ่ทั้งหายากและเป็นที่ต้องการมากสำหรับใช้เป็นอัญมณี ราคาต่อกะรัตไม่เพิ่มขึ้นโดยตรง(ความสัมพันธ์แบบ 1:1)กับขนาดที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างมากตามน้ำหนักกะรัต เนื่องจากมีปริมาณความต้องการอย่างมากสำหรับเพชรที่มีน้ำหนักมากกว่าเพชรที่มีน้ำหนักน้อยกว่า ตัวอย่างเช่นเพชร 0.99 กะรัตอาจมีราคาต่อกะรัตลดลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับเพชร 1.01 กะรัตเพราะปริมาณความต้องการที่แตกต่างกัน

ความบริสุทธิ
ความบริสุทธิเป็นตัวชี้วัดข้อบกพร่องภายในของเพชรที่เรียกว่าอินคลูชั่น(inclusions) อินคลูชั่นอาจจะเป็นผลึกของวัตถุแปลกปลอมหรือผลึกเพชรอีกอันหรือความไม่สมบูรณ์ของโครงสร้างเช่นรอยแตกเล็ก ๆ ที่สามารถปรากฏสีค่อนข้างขาวหรือสีควันขาว จำนวน, ขนาด, สี, ตำแหน่งที่ปรากฏ,การปรับตัวและการมองเห็นได้ของอินคลูชั่นทั้งหมดนี้จะมีผลต่อความชัดเจนของเพชร สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา (GIA) และองค์กรอื่น ๆ ได้มีการพัฒนาระบบจัดระดับความบริสุทธิซึ่งจะขึ้นอยู่กับอินคลูชั่นที่สามารถมองเห็นได้โดยมืออาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมเมื่อเพชรถูกมองภายใต้กล้องที่มีกำลังขยาย 10 เท่า

เพชรกลายเป็นสิ่งที่หายากมากขึ้นเมื่อพิจารณาจากระดับความบริสุทธิที่สูงขึ้น เพียงประมาณ 20% ของเพชรทั้งหมดที่ขุดได้มีความบริสุทธิที่สูงเพียงพอสำหรับเพชรที่จะถูกพิจารณาว่าเหมาะสมสำหรับใช้เป็นอัญมณีเครื่องประดับ;ที่เหลืออีก 80% จะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรม เพชรใน20% ข้างต้นมีสัดส่วนที่สำคัญประกอบไปด้วยหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอินคลูชั่นที่มองเห็นได้ บรรดาเพชรที่ไม่มีอินคลูชั่นที่มองเห็นได้เป็นที่รู้จักกันในนามว่า "สะอาดตา" และเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าอินคลูชั่นที่มองเห็นได้บางครั้งอาจจะซ่อนอยู่ภายใต้การจัดวางในชิ้นส่วนของเครื่องประดับ

อินคลูชั่นส่วนใหญ่ที่ปรากฏอยู่ในเพชรที่มีคุณภาพระดับอัญมณีไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือความสมบูรณ์ทางโครงสร้างของเพชร เมื่อจัดวางในเครื่องประดับ,มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะซ่อนบางอินคลูชั่นให้อยู่ด้านในตัวเรือนที่ติดตั้งเช่น ง่าม ซึ่งเป็นวิธีหนี่งที่จะทำให้มองไม่เห็นข้อบกพร่อง แต่อย่างไรก็ตามผลึกควันขาวขนาดใหญ่สามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถของเพชรที่จะส่งและกระจายแสง รอยแตกขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับหรือแตกร้าวไปสู่ผิวหน้าอาจเพิ่มโอกาสของการแตกหัก

เพชรจะถูกจัดอันดับโดยสมาคมที่มีชื่อเสียงสำคัญในระดับตั้งแต่สมบูรณ์แบบไปจนถึงไม่สมบูรณ์